fbpx
WeLoveMed.com

SQE บุคลากรสายพยาบาล


มาตรฐาน SQE.13
องค์กรมีกระบวนการที่มีประสิทธิผลในการรวบรวม สอบทาน และประเมิน หลักฐานคุณสมบัติของบุคลากรสายพยาบาล (ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ การศึกษา การฝึกอบรม และประสบการณ์)

เจตนาของ SQE.13
องค์กรต้องสร้างความมั่นใจว่ามีบุคลากรสายพยาบาลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับเป้าหมายขององค์กร ทรัพยากร และความต้องการของผู้ป่วย | บุคลากรสายพยาบาลมีหน้าที่รับผิดชอบในการให้การดูแลผู้ป่วยโดยตรง | นอกจากนั้น การดูแลทางการพยาบาลยังมีส่วนต่อผลลัพธ์ของผู้ป่วยโดยรวม | องค์กรต้องสร้างความมั่นใจว่าพยาบาลมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะให้การดูแลทางการพยาบาล และต้องระบุประเภทของการดูแลที่พยาบาลได้รับอนุญาตให้ทำถ้ามิได้กำหนดไว้ในกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับ | องค์กรสร้างความมั่นใจว่าพยาบาลแต่ละคนมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะให้การดูแลรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิผลแก่ผู้ป่วยโดย

– ทำความเข้าใจกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับพยาบาลและปฏิบัติการทางพยาบาล
– รวบรวมหลักฐานคุณวุฒิของพยาบาลแต่ละคน โดยมีหลักฐานต่อไปนี้เป็นอย่างน้อย
o หลักฐานการศึกษาและฝึกอบรม
o หลักฐานใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่เป็นปัจจุบัน
o หลักฐานของความสามารถในปัจจุบันจากสารสนเทศขององค์กรอื่นซึ่งพยาบาลเคยปฏิบัติงาน
o จดหมายรับรอง (letter of recommendation) และ/หรือ สารสนเทศอื่นๆ ซึ่งองค์กรต้องการ เช่น ประวัติสุขภาพ ภาพถ่าย และอื่นๆ และ
– การตรวจสอบสารสนเทศที่จำเป็น เช่น การขึ้นทะเบียนหรือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่เป็นปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเอกสารดังกล่าวมีการต่ออายุเป็นระยะ ประกาศนียบัตรและหลักฐานการสำเร็จการศึกษาเฉพาะทางหรือขั้นสูง

องค์กรจะต้องใช้ความพยายามทุกวิถีทางในการสอบทานหลักฐานคุณสมบัติ แม้เมื่อการศึกษาดังกล่าวเกิดขึ้นในต่างประเทศและเป็นเวลานานมาแล้ว | วิธีการที่สามารถใช้ได้ คือ การตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ที่ปลอดภัย การโทรศัพท์สอบถามจากแหล่งข้อมูลและบันทึกไว้ คำยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร และองค์กรที่สาม (third party) เช่น หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่ได้รับการระบุไว้ | สถานการณ์ที่อธิบายไว้สำหรับแพทย์ในเจตจำนงของมาตรฐาน SQE.9 ถือว่าเป็นวิธีการทดแทนที่ยอมรับได้สำหรับการสอบทานหลักฐานคุณวุฒิของพยาบาลกับแหล่งข้อมูลปฐมภูมิ

การปฏิบัติตามมาตรฐานหมายความว่าจะต้องมีการสอบทานกับแหล่งข้อมูลปฐมภูมิสำหรับ
– พยาบาลใหม่ที่เริ่มงานสิบสองเดือนก่อนที่จะมีการเยี่ยมสำรวจเพื่อการรับรองคุณภาพครั้งแรก และ
– พยาบาลที่กาลังปฏิบัติงานภายในช่วงสิบสองเดือน | การนี้จะสำเร็จได้ถ้าเป็นไปตามแผนซึ่งให้ความสำคัญกับการสอบทานหลักฐานคุณสมบัติของพยาบาลที่กำลังปฏิบัติงานให้บริการที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ห้องผ่าตัด แผนกฉุกเฉิน หรือหน่วยดูแลผู้ป่วยวิกฤติ

มีการบันทึกไว้เมื่อไม่สามารถทำการสอบทานได้ เช่น เอกสารสูญหายไประหว่างเกิดอุบัติภัย

องค์กรมีกระบวนการที่สร้างความมั่นใจว่าหลักฐานคุณวุฒิของพยาบาลที่ทำสัญญาจ้างแต่ละคนได้รับการรวบรวม สอบทาน และทบทวนเพื่อสร้างความมั่นใจในความสามารถทางคลินิกที่มีอยู่ในขณะนั้นก่อนที่จะมอบหมายงาน | องค์กรรวบรวมและเก็บรักษาแฟ้มข้อมูลหลักฐานคุณวุฒิของพยาบาลแต่ละคน | แฟ้มข้อมูลประกอบด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่เป็นปัจจุบันถ้าระเบียบข้อบังคับกำหนดให้มีการต่ออายุ | มีเอกสารหลักฐานของการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสามารถที่เพิ่มขึ้น (ดูที่ SQE.5)

องค์ประกอบที่วัดได้ (ME) ของ SQE.13
Ο 1. องค์กรมีวิธีปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานในการรวบรวมหลักฐานคุณสมบัติของบุคลากรสายพยาบาลแต่ละคน
Ο 2. มีบันทึกหลักฐานใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ การศึกษา การฝึกอบรม และประสบการณ์
Ο 3. หลักฐานใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และการศึกษา การฝึกอบรม ได้รับการสอบทานจากแหล่งข้อมูลต้นกำเนิดตามตัวแปรที่อยู่ในหัวข้อเจตนา SQE.9
Ο 4. มีการเก็บรักษาบันทึกหลักฐานคุณวุฒิของบุคลากรสายพยาบาลทุกคน
Ο 5. องค์กรมีกระบวนการที่สร้างความมั่นใจว่าหลักฐานคุณวุฒิของพยาบาลที่ทำสัญญา มีความถูกต้องและสมบูรณ์ก่อนมอบหมายงาน
Ο 6. องค์กรมีกระบวนการที่ทำให้มั่นใจว่าพยาบาลซึ่งติดตามแพทย์อิสระมาให้บริการแก่ผู้ป่วยและมิได้เป็นบุคลากรขององค์กร เป็นผู้มีหลักฐานคุณสมบัติเหมาะสม (ดูที่ GLD.6)


มาตรฐาน SQE.14
องค์กรมีวิธีปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานในการระบุหน้าที่รับผิดชอบและจัดมอบหมายงานทางคลินิก บนพื้นฐานของเอกสารคุณสมบัติของพยาบาลและระเบียบข้อบังคับที่มี

มาตรฐาน SQE.14.1
องค์กรมีวิธีปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานสำหรับการมีส่วนร่วมของพยาบาลในกิจกรรมพัฒนาคุณภาพขององค์กร รวมทั้งการประเมินผลการปฏิบัติงานของแต่ละบุคคลเมื่อมีข้อบ่งชี้

เจตนาของ SQE.14 แลSQE.14.1
การทบทวนคุณสมบัติของพยาบาล เป็นพื้นฐานสำหรับการมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบในงาน และกิจกรรมการดูแลด้านคลินิก (ดูที่ SQE.3) | การมอบหมายงานนี้อาจจะถูกระบุไว้ในคำบรรยายลักษณะงาน (ดูที่ SQE.1.1) หรือด้วยวิธีหรือเอกสารอื่นที่สนับสนุนการมอบหมายงาน (ดูที่ SQE.6) เช่น การมอบหมายงานไปที่หน่วยผู้สูงอายุหรือเด็กหรือหน่วยที่มีความรุนแรงสูง | การมอบหมายงานโดยองค์กรสอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่รับผิดชอบและการดูแลทางคลินิกของพยาบาล

บทบาททางคลินิกที่จำเป็นของบุคลากรสายพยาบาลกำหนดให้พยาบาลมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในโปรแกรมพัฒนาคุณภาพทางคลินิกขององค์กร | ถ้าพบว่าผลการปฏิบัติงานของพยาบาลมีข้อสงสัยในระหว่างการตรวจสอบ การประเมินผล และการพัฒนาคุณภาพทางคลินิก องค์กรมีกระบวนการที่จะประเมินผลการปฏิบัติงานของพยาบาลรายนั้น | ผลของการทบทวน การดำเนินการที่เกิดขึ้น และผลกระทบต่อหน้าที่รับผิดชอบได้รับการบันทึกไว้ในแฟ้มหลักฐานคุณสมบัติของพยาบาลหรือแฟ้มอื่นๆ

องค์ประกอบที่วัดได้ (ME) ของ SQE.14
Ο 1. มีการใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ การศึกษา การฝึกอบรม และประสบการณ์ของพยาบาลในการมอบหมายงานทางคลินิก
Ο 2. กระบวนการมอบหมายงานนำกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา
Ο 3. กระบวนการในการสนับสนุนแผนอัตรากำลังพยาบาล

องค์ประกอบที่วัดได้ (ME) ของ SQE.14.1
Ο 1. บุคลากรสายพยาบาลมีส่วนร่วมในกิจกรรมพัฒนาคุณภาพขององค์กร (ดูที่ QPS.1, ME 4)
Ο 2. มีการทบทวนประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรสายพยาบาลเมื่อได้รับการบ่งชี้โดยสิ่งที่พบจากกิจกรรมการพัฒนาคุณภาพ (ดูที่ GLD.11.1, ME 2)
Ο 3. มีการบันทึกสารสนเทศที่เหมาะสมจากกระบวนการทบทวนประเมินผลไว้ในแฟ้มข้อมูลคุณสมบัติหรือแฟ้มข้อมูลอื่นๆ ของพยาบาล


SQE – การวางแผน | การกำหนดสมาชิกภาพของบุคลากรสายแพทย์ | การกำหนดสิทธิทางคลินิกของบุคลากรสายแพทย์ | การตรวจสอบและประเมินผลบุคลากรสายแพทย์อย่างต่อเนื่อง | การแต่งตั้งบุคลากรสายแพทย์ใหม่และการต่ออายุสิทธิทางคลินิก | บุคลากรสายพยาบาล | ผู้ประกอบวิชาชีพด้านบริการสุขภาพอื่น