fbpx
WeLoveMed.com

SQE การกำหนดสมาชิกภาพของบุคลากรสายแพทย์


มาตรฐาน SQE.9 (ทำให้ชัดเจน)
องค์กรมีกระบวนการที่มีประสิทธิผลสำหรับรวบรวมเอกสารคุณสมบัติของบุคลากรสายแพทย์ที่ได้รับอนุญาตให้ดูแลผู้ป่วยได้โดยไม่ต้องมีการควบคุมดูแล ℗

มาตรฐาน SQE.9.1
มีการตรวจสอบและเก็บให้เป็นปัจจุบันสำหรับข้อมูลการศึกษา ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ/การขึ้นทะเบียน และเอกสารคุณสมบัติอื่น ของบุคลากรทางสายแพทย์ ที่กำหนดโดยกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ ℗

มาตรฐาน SQE.9.2
มีกระบวนการตัดสินใจที่โปร่งใสและเป็นรูปแบบเดียวกันสำหรับการรับบุคลากรสายแพทย์ ℗

เจตนาของ SQE.9 ถึง SQE.9.2
คำอธิบายคำศัพท์และความคาดหวังในมาตรฐานมีดังนี้:

เอกสารคุณสมบัติ
เอกสารคุณสมบัติ เป็นเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานที่จะบ่งบอกถึงความสำเร็จของความต้องการหรือการประชุมของข้อกำหนดคุณสมบัติ เช่น ประกาศนียบัตรจากโรงเรียนแพทย์ จดหมายเสร็จสิ้นหรือใบรับรองการอบรมเฉพาะทาง (แพทย์ประจำบ้าน residency) การสำเร็จการศึกษาตามข้อกำหนดขององค์กรวิชาชีพทางการแพทย์ ใบอนุญาตในการฝึกปฏิบัติ หรือการลงทะเบียนกับสภาทางการแพทย์หรือทางทันตกรรม | เอกสารเหล่านี้ บางส่วนต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ แต่บางส่วนเป็นนโยบายขององค์กร ต้องมีการตรวจสอบกับแหล่งต้นฉบับที่ออกเอกสาร

เอกสารคุณสมบัติยังสามารถเป็นเอกสารจากบุคคลและหน่วยงานที่ระบุประวัติทางวิชาชีพหรือความสามารถของผู้สมัคร ประวัติของการทำงานในโรงพยาบาลก่อนหน้าทั้งหมด บันทึกการดูแลทางคลินิกก่อนหน้า ประวัติสุขภาพ รูปภาพ หรือการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ | ตัวอย่างเช่น เอกสารเหล่านี้กำหนดโดยนโยบายองค์กรเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการรวบรวมเอกสารคุณสมบัติ แต่ไม่ต้องได้รับการตรวจสอบจากแหล่งที่ออกเอกสารถ้านโยบายองค์กรไม่ได้กำหนดไว้ | ข้อกำหนดในการตรวจสอบเอกสารคุณสมบัติจะแตกต่างกันไปโดยตำแหน่งที่กำลังหาผู้สมัคร | ตัวอย่างเช่น สำหรับผู้สมัครหัวหน้าฝ่าย/บริการทางคลินิก องค์กรจะต้องการที่จะตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งการบริหารงานก่อนหน้านี้และประสบการณ์ | ดังนั้น สำหรับตำแหน่งทางด้านคลินิก องค์กรจะต้องการจำนวนปีของประสบการณ์และจึงตรวจสอบระดับของประสบการณ์

บุคลากรสายการแพทย์
บุคลากรสายแพทย์หมายความถึง แพทย์ ทันตแพทย์ และบุคคลอื่นซึ่งมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพให้ทำเวชปฏิบัติได้โดยอิสระ (โดยไม่ต้องมีการควบคุมดูแล) และเป็นผู้ให้บริการป้องกันโรค บำบัดรักษา คืนสภาพ ศัลยกรรม ฟื้นฟูสมรรถภาพ หรือบริการทางการแพทย์และทันตกรรมอื่นๆ ให้แก่ผู้ป่วย หรือเป็นผู้ให้บริการแปลผลการตรวจแก่ผู้ป่วย เช่น การตรวจทางพยาธิวิทยา รังสีวิทยา หรือการตรวจชันสูตรทางห้องปฏิบัติการ | การจำแนกประเภทการจ้าง ได้รวมทุกประเภทและระดับพนักงาน (ลูกจ้าง, พนักงานกิตติมศักดิ์ จ้างงานตามสัญญา การเข้าเยี่ยมชม และชุมชนส่วนตัวพนักงาน) | บุคลากรที่เข้าเยี่ยมชมรวมถึง แพทย์ผู้ทำงานแทน (locum tenentes) หรือผู้เชี่ยวชาญรับเชิญ ครู “ชั้นสูง” และบุคคลอื่นๆ ที่อนุญาตที่ให้การบริการดูแลผู้ป่วยชั่วคราว | องค์กรต้องกำหนดนักปฏิบัติงานอื่นๆ เช่น เจ้าหน้าที่บ้าน แพทย์ที่ทำงานในโรงพยาบาลเท่านั้น (hospitalist) และแพทย์ junior doctors ที่ไม่ได้อยู่ในการฝึกอบรม แต่อาจจะหรืออาจจะไม่ได้รับอนุญาตจากองค์กรในการฝึกอย่างอิสระ | คำว่า บุคลากรสายแพทย์รวมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาตให้รักษาบางส่วนหรือทั้งหมด โดยไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์ต่อองค์กร (ตัวอย่างเช่น พนักงานหรือที่ปรึกษาอิสระ) | หมายเหตุ ในบางวัฒนธรรมผู้ปฏิบัติวิชาชีพทางการแพทย์ดั้งเดิม เช่น แพทย์ฝังเข็ม หมอจัดกระดูก และอื่นๆ อาจได้รับอนุญาตตามกฎหมายและองค์กรจะปฏิบัติได้อย่างอิสระ | ดังนั้น ในการพิจารณาบุคลากรสายแพทย์ใช้มาตรฐานเต็มรูปแบบ (ดูที่ GLD.6.2)

การตรวจสอบ
การตรวจสอบเป็นกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วนของเอกสารคุณสมบัติจากแหล่งที่ออกเอกสารคุณสมบัติ | กระบวนการนี้สามารถทำได้โดยการสอบถามไปยังฐานข้อมูลออนไลน์ที่เชื่อถือได้ เช่น บุคคลที่ได้รับใบอนุญาตในเมืองหรือประเทศของที่โรงพยาบาลตั้งอยู่ | กระบวนการนี้ยังสามารถทำได้โดยบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์กับแหล่งที่มาของการออกหรือโดยส่งอีเมล์หรือไปรษณีย์ธรรมดา | การตรวจสอบเอกสารคุณสมบัติจากนอกประเทศอาจซับซ้อนมากยิ่งขึ้นและบางกรณีเป็นไปไม่ได้ | ควรมีหลักฐานของความพยายามตรวจสอบเอกสารคุณสมบัติ | ความพยายามที่น่าเชื่อถือแบ่งเป็นหลายลักษณะ (อย่างน้อยสองครั้งภายใน 60 วัน) (เช่น โทรศัพท์ อีเมล์ และจดหมาย) พร้อมกับเอกสารของความพยายามและผลลัพธ์

สถานการณ์สามประการต่อไปนี้ถือว่าเป็นวิธีการทดแทนการสอบทานหลักฐานคุณสมบัติจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิ (primary source verification) ที่ยอมรับได้

  1. สำหรับองค์กรที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของส่วนราชการ กระบวนการสอบทานความถูกต้องของราชการ ซึ่งมีระเบียบข้อบังคับของราชการที่โปร่งใสเกี่ยวกับการสอบทานกับแหล่งข้อมูลปฐมภูมิ ร่วมกับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของราชการ และการให้สถานะเฉพาะ (เช่น ที่ปรึกษา ผู้ชำนาญ และอื่นๆ) เป็นที่ยอมรับ | เช่นเดียวกับกระบวนการตรวจสอบทั้งหมดของบุคคลที่สาม เป็นสิ่งสำคัญเพื่อตรวจสอบว่าบุคคลที่สาม (เช่น หน่วยงานของรัฐ) ดำเนินการกระบวนการตรวจสอบตามที่ระบุในนโยบายหรือระเบียบข้อบังคับและกระบวนการที่เป็นไปตามความคาดหวังที่อธิบายไว้ในมาตรฐานเหล่านี้
  2. สำหรับองค์กรทุกแห่ง การมีองค์กรเครือข่าย (affiliated hospital) ซึ่งมีการสอบทานกับแหล่งข้อมูลปฐมภูมิของผู้สมัคร การสอบทานนั้นเป็นที่ยอมรับตราบเท่าที่องค์กรเครือข่ายนั้นได้รับการรับรองจาก JCI โดยปฏิบัติตามกระบวนการตรวจสอบที่ระบุไว้ใน SQE.9.1, MEs 1 และ 2 (SQE.9, ME 3, ในมาตรฐานโรงพยาบาล JCI ฉบับที่ 4) อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ | การปฏิบัติอย่างครบถ้วนสมบูรณ์หมายความว่า รายงานการสำรวจขององค์กรอย่างเป็นทางการระบุองค์กระกอบที่วัดได้ครบถ้วน หรือถ้าไม่ครบถ้วนหรือองค์ประกอบที่วัดได้ที่พบบางส่วน ต้องระบุในแผนปรับปรุงกลยุทธ์ (SIP) และปฏิบัติอย่างครบถ้วนสมบูรณ์
  3. สำหรับองค์กรทุกแห่ง มีการสอบทานเอกสารคุณสมบัติโดยองค์กรที่สามซึ่งมีความอิสระ เช่น หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่ได้รับการกำหนด ตราบเท่าที่เป็นไปตามเงื่อนไขต่อไปนี้: องค์กรที่ตัดสินใจบนพื้นฐานของสารสนเทศจากหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่ได้รับการระบุไว้ ควรสร้างความเชื่อมั่นในความสมบูรณ์ ความถูกต้อง และความทันสมัยของสารสนเทศดังกล่าว | เพื่อให้มีความเชื่อมั่นต่อสารสนเทศในระดับนี้ องค์กรควรประเมินหน่วยงานที่ส่งมอบสารสนเทศตั้งแต่แรกเริ่มและเป็นระยะหลังจากนั้น เพื่อให้มั่นใจว่าสอดคล้องกับมาตรฐาน JCI

การเข้าใจกระบวนการออกเอกสารคุณสมบัติเป็นสิ่งสำคัญ | ตัวอย่างเช่น หน่วยงานของรัฐบาลที่ออกใบอนุญาตในการฝึกปฏิบัติขึ้นอยู่กับการตัดสินใจบางส่วนหรือทั้งหมดดังต่อไปนี้หรือไม่: การตรวจสอบการศึกษา การตรวจสอบความสามารถ การฝึกอบรมโดยสมาคมการแพทย์ หรือสมาชิกและการชำระค่าธรรมเนียม | นอกจากนี้ ถ้าการเข้าโปรแกรมการศึกษาพิเศษขึ้นอยู่กับการตรวจสอบการศึกษาและประสบการณ์ล่าสุด องค์กรไม่จำเป็นต้องตรวจสอบการศึกษาอีกครั้งหนึ่ง | กระบวนการโดยหน่วยงานของรัฐมีการบันทึกไว้ในองค์กร | ถ้าองค์กรไม่มีความรู้โดยตรงต่อกระบวนการโดยตัวแทนเพื่อตรวจสอบการศึกษา หรือองค์กรไม่มีโอกาสตรวจสอบกระบวนการของตัวแทนตามที่กล่าวมา องค์กรต้องดำเนินการตรวจสอบด้วยตนเอง (ดูที่ SQE.13, ME 3 และ SQE.15, ME 3)

ยกเว้นสำหรับ SQE.9.1, ME 1 สำหรับการสำรวจครั้งแรกเท่านั้น การการสอบทานหลักฐานคุณสมบัติกับแหล่งข้อมูลปฐมภูมิเป็นสิ่งที่ต้องกระทำสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพใหม่ที่เริ่มงานสิบสอง (12) เดือนก่อนที่จะมีการเยี่ยมสำรวจเพื่อการรับรองครั้งแรก | ผู้ประกอบวิชาชีพอื่นๆ จะต้องมีการสอบทานหลักฐานคุณสมบัติกับแหล่งข้อมูลปฐมภูมิภายในสิบสองเดือนเมื่อมีการเยี่ยมสำรวจองค์กรเพื่อการรับรอง | การปฏิบัตินี้จะเสร็จสมบูรณ์ภายในช่วงเวลาสิบสองเดือนตามแผนซึ่งให้ความสำคัญกับการสอบทานหลักฐานคุณสมบัติของผู้ประกอบวิชาชีพที่กำลังปฏิบัติงานให้บริการที่มีความเสี่ยงสูง

หมายเหตุ: ข้อกำหนดนี้อ้างอิงถึงการ “สอบทาน” หลักฐานคุณสมบัติเท่านั้น | สำหรับแพทย์ทุกคนจะต้องมีการรวบรวมและทบทวนหลักฐานคุณสมบัติ และมอบหน้าที่การดูแลผู้ป่วย | ไม่มีการแบ่งเป็นขั้นตอนในกระบวนการนี้

การแต่งตั้ง (Appointment)
การแต่งตั้งเป็นกระบวนการของการทบทวนหลักฐานคุณสมบัติของผู้สมัครเมื่อแรกบรรจุเข้าทำงาน เพื่อการตัดสินใจว่าบุคคลที่มีคุณสมบัติที่จะให้บริการดูแลผู้ป่วยตามที่โรงพยาบาลต้องการและโรงพยาบาลสามารถรองรับกับพนักงานที่มีคุณภาพและมีความสามารถทางเทคนิค | สำหรับผู้สมัครเมื่อแรกบรรจุเข้าทำงาน การตรวจสอบข้อมูลเป็นหลักจากแหล่งภายนอก | นโยบายโรงพยาบาลระบุบุคคลหรือกลไกรับผิดชอบสำหรับการตรวจสอบ เกณฑ์ใดๆ ที่ใช้ในการทำการตัดสินใจและวิธีการตัดสินใจที่จะได้รับการบันทึกไว้ | นโยบายโรงพยาบาลระบุขั้นตอนการแต่งตั้ง ผู้ปฏิบัติงานที่เป็นอิสระสำหรับความต้องการฉุกเฉินหรือเป็นระยะเวลาชั่วคราว | สำหรับบุคคลดังกล่าวได้รับการแต่งตั้ง และการระบุสิทธิจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าใบอนุญาตขั้นต่ำได้รับการยืนยัน

การแต่งตั้งใหม่ (Reppointment)
การแต่งตั้งใหม่เป็นกระบวนการของการตรวจสอบแฟ้มบุคลากรสายแพทย์ เพื่อการตรวจสอบ
– ว่าผู้ประกอบวิชาชีพรายนั้นยังคงได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
– ว่าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ไม่ได้ถูกลงโทษโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือประกาศนียบัตร
– มีเอกสารหลักฐานที่เพียงพอสำหรับการขอหรือขยายสิทธิการดูแลผู้ป่วยหรือหน้าที่ภายในองค์กร และ
– มีความสามารถทางร่างกายและจิตใจที่จะดูแลรักษาผู้ป่วยโดยไม่ต้องมีการควบคุมดูแล

ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบนี้มาจากทั้งภายในและภายนอก | เมื่อแผนกคลินิก/หน่วยบริการ (ตัวอย่างเช่น บริการเฉพาะทางสาขาต่อยอด (subspecialty) ไม่มีผู้ควบคุมดูแล/ผู้นำ นโยบายองค์กรกำหนดว่าใครเป็นผู้ตรวจสอบผู้ประกอบวิชาชีพในแผนก/หน่วยบริการ | แฟ้มหลักฐานคุณสมบัติของบุคลากรสายแพทย์ควรเป็นแหล่งข้อมูลที่มีการเคลื่อนไหวและมีการทบทวนอย่างต่อเนื่อง | ตัวอย่างเช่น เมื่อบุคลากรสายแพทย์แสดงใบรับรองของความสำเร็จที่เกี่ยวข้องกับการฝึกอบรมเฉพาะทางขั้นสูง หลักฐานคุณสมบัติใหม่ควรจะตรวจสอบได้ทันทีจากแหล่งที่ออก | ในทำนองเดียวกัน เมื่อหน่วยงานจากภายนอกค้นพบว่า มีเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นโดยไม่มีการคาดการณ์มาก่อนที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรสายแพทย์และมีการลงโทษ ควรมีการประเมินหน้าที่ทางคลินิคของบุคลากรสายแพทย์ใหม่ทันที | เพื่อให้มั่นใจว่าแฟ้มบุคลากรสายแพทย์สมบูรณ์และถูกต้อง มีการทบทวนเอกสารอย่างน้อยทุกสามปี และหมายเหตุในแฟ้มระบุถึงการดำเนินการหรือการไม่ดำเนินการที่จำเป็นและการแต่งตั้งบุคลากรสายแพทย์อย่างต่อเนื่อง

สมาชิกบุคลากรสายแพทย์อาจจะไม่ได้รับอนุญาตเข้าทำงานถ้าองค์กรไม่มีเทคโนโลยีทางการแพทย์เป็นพิเศษ หรือมีพนักงานที่สนับสนุนการปฏิบัติทางวิชาชีพของบุคคลนั้น | ตัวอย่างเช่น นักไตวิทยาค้นหาการบริการฟอกไตในองค์กร อาจไม่ได้เป็นบุคลากรสายแพทย์ถ้าองค์กรนั้นไม่มีการให้บริการดังกล่าว

เมื่อการขอใบอนุญาต/การลงทะเบียนได้รับการยืนยันจากแหล่งภายนอก แต่เป็นเอกสารอื่น เช่น การศึกษาและการฝึกอบรม จะต้องมีการตรวจสอบบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เป็นบุคลากรสายแพทย์และสิทธิพิเศษสำหรับผู้สมัคร | อย่างไรก็ตาม บุคคลเหล่านี้อาจจะไม่ปฏิบัติงานอิสระจนกว่าหลักฐานคุณสมบัติทั้งหมดได้รับการตรวจสอบ | การกำกับดูแลดังกล่าวกำหนดไว้อย่างชัดเจนในนโยบายขององค์กรให้เป็นไปตามระดับ เงื่อนไข และระยะเวลา (ดูที่ SQE.1.1, SQE.3, และ SQE.5)

องค์ประกอบที่วัดได้ (ME) ของ SQE.9
Ο 1. มีกระบวนการระบุไว้ในนโยบายสำหรับการทบทวนแฟ้มหลักฐานคุณสมบัติของบุคลากรสายแพทย์แต่ละคน
Ο 2. มีการระบุตัวผู้ที่ได้รับอนุญาตโดยกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ และองค์กร ให้ดูแลผู้ป่วยได้โดยไม่ต้องมีการกำกับดูแล
Ο 3. มีการเก็บสำเนาหลักฐานคุณสมบัติที่ต้องการ (หลักฐานการศึกษา ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ การขี้นทะเบียน ฯลฯ) ตามข้อกำหนดและนโยบายขององค์กรสำหรับบุคลากรสายแพทย์แต่ละคนไว้ในแฟ้มข้อมูลส่วนบุคคล หรือในแฟ้มหลักฐานคุณสมบัติของแต่ละคนที่แยกไว้เฉพาะ
Ο 4. มีการเก็บสำเนาหลักฐานคุณสมบัติอื่นทั้งหมด ตามข้อกำหนดและนโยบายขององค์กรสำหรับบุคลากรสายแพทย์แต่ละคนไว้ในแฟ้มข้อมูลส่วนบุคคล หรือในแฟ้มหลักฐานคุณสมบัติของแต่ละคนที่แยกไว้เฉพาะ

องค์ประกอบที่วัดได้ (ME) ของ SQE.9.1
Ο 1. มีการสอบทานหลักฐานคุณสมบัติ (หลักฐานการศึกษา ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ การขี้นทะเบียน ฯลฯ) กับหน่วยงานซึ่งเป็นผู้ออกหลักฐานดังกล่าว
Ο 2. มีการสอบทานหลักฐานคุณสมบัติอื่นที่กำหนดโดยองค์กร กับหน่วยงานซึ่งเป็นผู้ออกหลักฐานดังกล่าว เมื่อต้องการโดยนโยบายองค์กร
Ο 3. เมื่อมีการตรวจสอบโดยบุคคลที่สาม องค์กรจะต้องตรวจสอบบุคคลที่สาม (ตัวอย่างเช่น หน่วยงานของรัฐ) ตามที่อธิบายไว้ในการกำหนดนโยบายหรือกฎระเบียบและกระบวนการตามความคาดหวังที่ระบุไว้ในเจตนา

องค์ประกอบที่วัดได้ (ME) ของ SQE.9.2
Ο 1. การแต่งตั้งบุคลากรสายแพทย์จะทำตามนโยบายขององค์กรและมีความสอดคล้องกับประชากรผู้ป่วยในองค์กร เป้าหมายและการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ป่วย
Ο 2. การแต่งตั้งจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าใบอนุญาต/การลงทะเบียนได้รับการยืนยันจากหน่วยงานซึ่งเป็นผู้ออกหลักฐานและบุคลากรสายแพทย์จะให้บริการดูแลผู้ป่วยภายใต้การดูแล จนกว่าหลักฐานคุณสมบัติตามที่กฎหมายและกฎระเบียบที่ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานซึ่งเป็นผู้ออกหลักฐาน
Ο 3. วิธีการของการกำกับดูแล ความถี่ของการกำกับดูแล และผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบ ได้รับการบันทึกไว้ในแฟ้มหลักฐานคุณสมบัติของแต่ละบุคคล


SQE – การวางแผน | การกำหนดสมาชิกภาพของบุคลากรสายแพทย์ | การกำหนดสิทธิทางคลินิกของบุคลากรสายแพทย์ | การตรวจสอบและประเมินผลบุคลากรสายแพทย์อย่างต่อเนื่อง | การแต่งตั้งบุคลากรสายแพทย์ใหม่และการต่ออายุสิทธิทางคลินิก | บุคลากรสายพยาบาล | ผู้ประกอบวิชาชีพด้านบริการสุขภาพอื่น